นาร์วาฬ ยูนิคอร์นแห่งมหาสมุทร
นาร์วาฬ มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Narwhal ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Monodon monoceros ฉายา ยูนิคอร์นแห่งมหาสมุทรอาร์กติก (arctic unicorn) จัดเป็นวาฬมีฟัน ขนาดกลาง ซึ่งใช้ชีวิตตลอดทั้งปีที่บริเวณ อาร์กติก เป็น 1 ใน 2 ของสปีชีส์ วาฬวงศ์ โมโนคอนติแด เช่นเดียวกับ วาฬเบลูกา นาร์วาฬ เพศผู้มีลักษณะที่โดดเด่น คือ มีงาที่ยาว ตรง เป็นเกลียวที่ยื่นมาจากกรามบนด้านซ้าย ซึ่งที่จริงแล้ว คือ ฟันเพียงซี่เดียว ที่อาจยาวได้ถึง 3 เมตร ปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัดว่า มีไว้สำหรับทำอะไร เพราะ นาร์วาฬ ไม่ได้ใช้งาตรงนี้ในการขุดเจาะหาอาหาร หรือ ต่อสู้กันเอง
นาร์วาฬส่วนใหญ่
พบในบริเวณอาร์กติกของประเทศแคนาดา และเขตทะเลของประเทศกรีนแลนด์ อยู่ในบริเวณละติจูดที่
65 องศาเหนือ ซึ่งพบหาได้ยาก
นาร์วาฬเป็นนักล่าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในเขตอาร์กติก
มันหากินบริเวณพื้นใต้น้ำเป็นส่วนใหญ่ อาหาร ของนาร์วาฬ จะเป็น ปลาซีกเดียว ที่ระดับความลึกถึง 1,500 เมตร ใต้ก้อนน้ำแข็งหนา
ชาวอินูอิต
อาศัยอยู่ในเขตภาคเหนือของแคนาดา และกรีนแลนด์
ได้สืบทอดการล่านาร์วาฬเพื่อเอาเนื้อและงามากว่าพันปี การล่าเป็นไปเพื่อยังชีพ
แบบควบคุมยังคงดำเนินต่อไปจนถึงทุกวันนี้
ในยุคกลาง
งาของนาร์วาฬ ถูกขายในราคาที่สูงให้แก่เชื้อพระวงศ์ชั้นสูง และถูกขนานนามว่า
ยูนิคอร์นแห่งท้องทะเล
นาร์วาฬเป็นนักล่าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในเขตอาร์กติก
มันหากินบริเวณพื้นใต้น้ำเป็นส่วนใหญ่ อาหาร ของนาร์วาฬ จะเป็น ปลาซีกเดียว ที่ระดับความลึกถึง 1,500 เมตร ใต้ก้อนน้ำแข็งหนา
ชาวอินูอิต
อาศัยอยู่ในเขตภาคเหนือของแคนาดา และกรีนแลนด์
ได้สืบทอดการล่านาร์วาฬเพื่อเอาเนื้อและงามากว่าพันปี การล่าเป็นไปเพื่อยังชีพ
แบบควบคุมยังคงดำเนินต่อไปจนถึงทุกวันนี้
นาร์วาฬจะปรากฏตัวขึ้นทุกปีในหน้าร้อน เพื่ออพยพย้ายถิ่น
โดยใช้เส้นทางรอยแยกของน้ำแข็ง ในการอพยพ
ปกตินาร์วาฬจะหาอาหารในทะเลน้ำลึก
บริเวณใจกลางอ่าวบาฟฟิน (Baffin Bay) แถบประเทศแคนาดา ในช่วงฤดูหนาว
เป็นไปได้ว่าเมื่อถึงฤดูร้อนอาหารหาได้ยากขึ้น เหล่านาร์วาฬจึงต้องเดินทางกลับสู่ดินแดนทะเลน้ำแข็งอีกครั้งหนึ่ง
ทีมงานแผนกธรรมชาติวิทยา
บีบีซีแห่งอังกฤษ (BBC) บันทึกภาพถ่ายฝูง นาร์วาฬ (narwhal) หรือ
ซึ่งกำลังแหวกว่ายอยู่ตามรอยแยกของน้ำแข็ง
พวกมันเหมือนสัตว์ในเทพนิยายที่มีอยู่จริง
งายาวที่ยื่นออกจากปากของนาร์วาฬ บิดเป็นเกลียว มีความยาวมากกว่า 2 เมตร
มองดูคล้ายเขาของยูนิคอร์น
นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า
งาของมันใช้เป็นสิ่งดึงดูดเพศตรงข้ามในการผสมพันธุ์
ถึงแม้เราผู้อยู่ห่างไกลกันสุดกู่จากนาร์วาฬ
เราก็ขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและให้กำลังใจให้พวกมันอยู่คู่กับเราไปนานเท่านาน
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ
นิตยสาร Go Genius ปีที่
4 ฉบับที่ 48 เมษายน 2552
วิกีพีเดีย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น