ก่อนจะเป็นวันนี้ จากความพยายามของมนุษย์ ที่จะแก้ปัญหาเพื่อเอาชนะความอดอยาก ความหิวโหย ความเจ็บไข้ได้ป่วย ความทุกข์ยาก ความลำบาก ความหวาดกลัวต่อสิ่งที่ต้องเผชิญหน้าโดยมิได้เตรียมระมัดระวัง กับความโหดร้ายที่มาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ นับตั้งแต่มีมนุษย์อุบัติขึ้นมาบนโลกใบนี้ เมื่อการเผชิญหน้ากับความทารุณโหดร้าย ที่มนุษย์ได้รับจากธรรมชาติ เป็นเหตุนำมาแห่งปัญหาในวิถีชีวิตของมนุษย์ ปัญหาต่างๆ เหล่านั้น เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า วันแล้ววันเล่า ผ่านกลางวัน ผ่านกลางคืน ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านฝน ผ่านความแห้งแล้ง วนเวียนซ้ำซากเช่นนี้เรื่อยมา
เมื่อปัญหาในการดำเนินวิถีชีวิตมนุษย์เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ถูกสะสมปัญหานานวัน
ตัวปัญหาเริ่มหนาขึ้นเห็นภาพของปัญหาชัดขึ้น และเพื่อที่มนุษย์จำเป็นต้องอยู่รอด
ก็เริ่มค้นหาที่มาของปัญหา เริ่มเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต จากก้มหน้าดูดินเพื่อหาบางสิ่งบางอย่างยังชีพ
แหงนมองขึ้นเบื้องบน (อาจจะแอบบ่น น้อยใจอะไรบ้างละน๊า
ซึ่งตอนนั้นคงยังไม่มีใครนึกถึงเทพเจ้าบนฟ้าหรอก) อะไรที่เคยมีมันหายไปไหนหมด
ฝนไปไหน ทำไมมีอะไรสีขาวๆเย็นตกลงมาแทน แผ่นดินก็หายไปหมดมีแต่พื้นดินสีขาวโพล้น
ต้นไม้ก็ไม่มีผล สัตว์ป่าก็หายเงียบไปหมด แล้ววันดีคืนดี ทุกอย่างก็ผลิบาน
สัตว์ป่าออกมาวิ่งเล่นกันเต็มท้องทุ่ง ต้นไม้ที่เคยเห็นเหมือนมันตายไปแล้วกลับฟื้นคืนชีพอีกครั้ง
พร้อมกับออกผลกันอย่างเต็มที่ ความอุดมสมบูรณ์กลับมาอีกครั้ง
แล้ววันดีคืนดีก็หายสาบสูญกันไปอีก วันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า จนมนุษย์เริ่มสังเกตเห็นความแตกต่าง
เห็นวัฎจักรแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบของฤดูกาล
บางเวลาเห็นลูกไฟใหญ่
ให้แสงสว่างและความอบอุ่นจนถึงร้อน และร้อนมาก มายังพื้นดินที่พวกเราอยู่ ในบางเวลาเห็นดวงลูกไฟใหญ่
ให้แสงสว่าง แต่ไม่ได้ให้ความอบอุ่นจนถึงร้อน
ร้อนมาก เหมือนลูกไฟใหญ่อีกดวง แต่ในบางเวลาเบื้องบนก็จะเต็มไปด้วยแผ่นพื้นสีดำสุดลูกหูลูกตา พร้อมกับวัตถุเล็ก ๆเป็นจำนวนมาก มากมายมหาศาล
บ้างก็ระยิบระยับ บ้างก็ส่งแสงนิ่งๆ อยู่เต็มบนนั้น และมนุษย์ก็เริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบของวัตถุเบื้องบนนั้น
ปัญหาสอนให้มนุษย์ฉลาดขึ้น
มนุษย์พยายามค้นหาความจริงเกี่ยวกับวัฎจักรแห่งการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อย่างเป็นระบบ หาสาเหตุแห่งการเกิดปรากฎการณ์ต่าง ๆ
แล้วนำสิ่งเหล่านั้นมาก่อให้เกิดประโยชน์กับวิถีชีวิตของมนุษย์
ทำให้การดำรงชีวิตของมนุษย์เป็นไปอย่างปรกติสุข
ก่อให้เกิดการเรียนรู้ผลักดันให้มนุษย์ คิดค้น ประดิษฐ์สิ่งของต่าง
ๆขึ้นมามากมาย คิดค้นหาคำเรียกชื่อสิ่งเหล่านั้นเพื่อการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ เพื่อช่วยในการค้นหาความจริงที่มากกว่า
วัฎจักรแห่งการเปลี่ยนแปลงของวัตถุบนฟากฟ้า
และ วัฎจักรแห่งการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล แล้ว สิ่งที่มนุษย์จำเป็นต้องค้นหาต่อไป คือ “
วัฎจักรแห่งการเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิต ที่เรียกว่า ‘มนุษย์ ‘
มาจากไหน ทำให้วิทยาการ หรือ ศาสตร์ต่างๆ
ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ศาสตร์ต่าง ๆที่ว่า ก็รวมถึง ศาสตร์แห่งท้องฟ้า
จนพัฒนามาเป็น วิชาดาราศาสตร์ ในปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น