บทที่ 3. ยุคแรกแห่งการทำนายโชคชะตาของมนุษย์
เมื่อชาวคาลเดียล (อาณาจักรบาบิโลนใหม่ ในสมัยพระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์
(Nebuchadnezzar,
605-562 ปีก่อนคริสต์ศักราช) เป็นผู้รับสืบทอดงานดาราศาสตร์มาจากสุเมเรียน นาบูริแมนนู (Naburiano or Naburimannu)
เป็นนักดาราศาสตร์ชาวคาลเดียน ได้นำความรู้ทางด้านดาราศาสตร์
มาประยุกต์ใช้โดยกำหนด ดวงดาวสำคัญขึ้นมา 7 ดวง อันประกอบด้วย ดวงอาทิตย์
ดวงจันทร์ ดาวพุธ ดาวศุกร์ ดาวอังคาร ดาวพฤหัส และดาวเสาร์ (ดาวไม่มีแสงกระพริบ) เดินทางผ่านกลุ่มดาวเล็ก
ๆ (ที่มีแสงกระพริบ)ที่เรียกว่า กลุ่มดาวฤกษ์
ที่มีการตั้งชื่อตามรูปลักษณะของสัตว์ที่เห็นในเวลานั้น
จึงเรียกกลุ่มดาวฤกษ์เหล่านี้ “วงรอบรูปสัตว์” (Zodiac = Zoo+ diac ) และในวงรอบรูปสัตว์เหล่านี้ก็อยู่ในแถบสำคัญบนท้องฟ้า
จึงแบ่งแถบสำคัญนี้ออกเป็น 12 ส่วน จึงกลายเป็น “จักรราศี” และเดินทางของกลุ่มดวงดาวที่ไม่มีแสงกระพริบผ่านมายังกลุ่มดาวเล็กๆที่เรียกดาวฤกษ์นี้
และ โดยไม่ออกนอกเส้นทางบนแถบสำคัญ เราเรียกว่า
“การโคจรของดวงดาว”
ดังนั้นแหล่งกำเนิดของโหราศาสตร์
คาดว่า อยู่ที่ดินแดนเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia) ซึ่งเป็นคำกรีกโบราณมาจาก
meso แปลว่า กลาง + potamia แปลว่า แม่น้ำ จึงหมายถึง ดินแดนระหว่างแม่น้ำ 2 สาย คือ แม่น้ำไทกริส (Tigris)
และ แม่น้ำยูเฟรติส (Euphrates) ดินแดนดังกล่าวนี้เป็นส่วนหนึ่งของ
“ดินแดนวงพระจันทร์เสี้ยวไพบูลย์” หรือ “ Fertile
Crescent “ ซึ่งเป็นดินแดนรูปครึ่งวงกลมผืนใหญ่
ที่ทอดแผ่นดินโค้งขึ้นไปจากฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ไปจรดอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งปัจจุบันนี้อยู่ในประเทศอิรัก แม่น้ำทั้ง 2 สาย มีต้นน้ำอยู่ใน อาร์มิเนีย
และ เอเชียไมเนอร์ มาบรรจบกันเป็น
แม่น้ำชัตต์อัลอาหรับ แล้วไหลลงสู่ทะเลที่ อ่าวเปอร์เซีย
(ประเทศอาร์มิเนีย
เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ตั้งอยู่ทางใต้ของเทือกเขาคอเคซัส และอยู่ระหว่าง
ทะเลดำ กับ ทะเลแคสเปียน โดยทิศเหนือ ติดกับ ประเทศจอร์เจีย และ
ประเทศเอเซอร์ไบจาน ทิศใต้ ติดกับ
ประเทศอิหร่าน และ ประเทศตุรกี)
( เอเชียไมเนอร์
คือ ดินแดนที่เรียกว่า อานาโตเลีย
ซึ่งเป็นดินแดนทางตะวันตกของทวีปเอเชีย
ปัจจุบันดินแดนส่วนใหญ่อยู่ในประเทศตุรกี จากขอบเขตทางตะวันตก คือ ทะเลอีเจียน จนถึง
ทางตะวันออก คือ ภูเขาชายแดนประเทศอาร์มิเนีย และทางเหนือ เทือกเขาทะเลดำ จนถึงทางใต้เทือกเขาเทารัส )
เมโสโปเตเมีย เป็นแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง เป็นดินแดนแห่งความขัดแย้งทางธรรมชาติ บางครั้งอากาศอาจจะมีอุณหภูมิสูงและร้อนจัด ติดต่อกันเป็นเวลานาน ในบางครั้งอาจมีพายุฝนอย่างหนักและเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่ทรัพย์สินและชีวิตของประชาชน ยิ่งไปกว่านั้น พายุลมและพายุฝุ่น ยังเป็นภัยธรรมชาติที่ไม่อาจป้องกันได้ บริเวณแม่น้ำทั้งสองสายนี้ เป็นพื้นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูก
ทำให้กลุ่มชนชาติต่าง ๆเข้ามาทำมาหากิน และสร้างอารยธรรมขึ้น จากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง
ทำให้เกิดอารยธรรมแบบผสม
ชาวสุเมเรียน (Sumerian) เป็นคนกลุ่มแรกที่สร้างอารยธรรมเมโสโปเตเมียขึ้น
ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในดินแดนนี้เป็นผู้คิดประดิษฐ์
ตัวอักษรขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก เราเรียกตัวอักษรนี้ว่า อักษรคูนิฟอร์ม (Cuneiform) มาจากภาษาละติน Cuneus แปลว่า ลิ่ม
จึงเรียกว่า อักษรรูปลิ่ม
เป็นระบบการเขียนที่หลากหลาย เป็นได้ทั้งอักษรพยางค์ อักษรคำ และ
อักษรที่มีระบบสระ – พยัญชนะ ตัวอักษรเหล่านี้จะถูกเขียนด้วยวัตถุที่เป็นของแข็งและแหลม
หรือ จากต้นอ้อ นำมาเขียนเรื่องราวต่าง ๆบนแผ่นดินเหนียว ที่เรียกว่า บุลลา (bulla) มีขนาดเท่าฝ่ามือ
อักษรคูนิฟอร์ม (Cuneiform) |
แผนที่ดาวของชาวสุเมเรียน |
หลังจากนั้น ชนเผ่าชาวอัซซีเรียน (Assyrian)
ก็มีบทบาทนำในด้านการเมืองการปกครอง ส่วนชาวบาบิโลเนียน (Babylonian) ก็มีบทบาทนำในด้านวัฒนธรรม ซึ่งมีชาวคาลเดียน (Chaldean) ชนกลุ่มหนึ่งที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของบาบิโลน
เป็นกลุ่มชนผู้เชี่ยวชาญทางด้านโหราศาสตร์ ทำให้โหราศาสตร์มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก
(คำว่าคาลเดียน จึงมีความหมายว่า นักโหราศาสตร์)
ในช่วงต้นของยุคเมโสโปเตเมีย
โหราศาสตร์ยังอยู่บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่า ปรากฏการณ์บนท้องฟ้า
เป็นลางบอกเหตุที่ส่งผลต่ออาณาจักร และกษัตริย์ ยังไม่มีการนำมาใช้พยากรณ์ดวงชะตาบุคคลทั่วไป
ชาวเมโสโปเตเมีย (เป็นคำกลาง ๆ
ที่หมายถึงกลุ่มชนที่อาศัยในดินแดนแห่งนี้ในยุคนั้น)
ได้พัฒนาการสังเกตปรากฏการณ์บนท้องฟ้าอย่างเป็นระบบ เพื่อหารูปแบบที่ปรากฏการณ์ฟ้า
ส่งผลต่อเหตุการณ์ของมนุษย์ จากบันทึกที่พบในยุคอัคคาเดียน ประมาณ 2,300 ปีก่อนคริสตกาล ที่ว่า
“ถ้าดาวศุกร์ปรากฏ ณ ทิศตะวันออกในเดือน Airu โดยดาวแฝดใหญ่ และดาวแฝดเล็ก
อยู่รอบเธอ และแสงสว่างของเธอดูหมองลง กษัตริย์แห่ง Elam จะล้มป่วยและสิ้นพระชนม์ลง
นอกจากนี้ยังพบว่า
มีจารึกดาวศุกร์แห่งอัมมิซาดูกา (Venus
Tables of AmmiZaduga) ซึ่งเป็นบันทึกดาวศุกร์ในช่วงต่าง ๆ อย่างเป็นระบบพร้อมลางบอกเหตุที่เกิดขึ้น ชาวเมโสโปเตเมียเชื่อว่า
ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์มีความเกี่ยวข้องกับเทพเจ้า ในการบันทึกพบว่าชาวเมโสโปเตเมียนิยมนำ
ดาวศุกร์ หรือ เทพีอิชตาร์ (Ishtar) มาเป็นดาวที่ใช้ในการพยากรณ์มากที่สุดดวงหนึ่ง จึงนับว่า ยุคเมโสโปเตเมีย
เป็นยุคที่นำความเชื่อพื้นฐานที่มาจากปรากฏการณ์บนท้องฟ้านำมาใช้ในการทำนายโชคชะตามนุษย์เป็นครั้งแรก
ขอขอบคุณ แหล่งข้อมูล
หลักสูตร “คัมภีร์สุริยยาตร์
๒๕๕๐”ของมูลนิธิสมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระสังฆราชูปถัมภ์ บรรยายโดย วรพล ไม้สน
(พลังวัชร์)
อารยธรรมตะวันตก ตอนที่ 1 ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาศิลปากร อ.สัญชัย สุวังบุตร บรรณาธิการ
หอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก กรุงเทพฯ
อารยธรรมตะวันตก ตอนที่ 1 ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาศิลปากร อ.สัญชัย สุวังบุตร บรรณาธิการ
หอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก กรุงเทพฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น