ขอนำเรื่องราวแห่งความสุขที่แท้จริง ที่จะชวนให้คุณสร้างรอยยิ้มในใจ และเปิดรับโลกใหม่ ในมุมมองใหม่ ๆ ไปกับเรื่องราวในหนังสือนิทาน หรือ หนังสือในตำนานต่างๆ รวมถึงสุภาษิต และเรื่องราวในหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา หรือ คำสอนธรรมะ จากทุกศาสนา ที่สนุกสนานจากประสบการณ์ตรงของผู้แต่ง นำมาเรียงร้อย รวบรวมให้เป็นแหล่งรวมกำลังใจ สำหรับใครหลาย ๆ คน ที่กำลังรู้สึกแย่ ว้าเหว่ โดดเดี่ยว คิดอะไรไม่ออก เจอทางตัน เรื่องราวต่าง ๆ ที่เก็บเล็กผสมน้อยมารวบรวมไว้ให้นี้ จะช่วยให้เห็นแสงที่ปลายอุโมงค์ ได้เข้าใจถึงคำว่า ความสุข คืออะไร จะค้นพบความจริงของตัวเองว่า เราต้องการสิ่งใดในชีวิตของเราจริง ๆ สิ่งที่เราตัดสินใจไปแล้วผิดไหม หรือ กำลังจะตัดสินใจอะไรบางอย่าง ต้องทำอย่างไร เรื่องราวเหล่านี้ได้ช่วยเปลี่ยนชีวิตของผู้อ่านให้ดีขึ้นมามากมาย รวมถึงตัวผู้รวบรวมเองด้วย การอ่านเรื่องดี ๆ เป็นยาวิเศษที่ยอดเยี่ยมมาก รักษาโรคที่ร้ายแรงที่สุดของเราให้หายได้เป็นปลิดทิ้ง คุณเชื่อหรือไม่ ความสุขที่แท้จริงของคุณคืออะไร อยากรู้อยากรู้มะ มาม๊ะมาค้นหาความสุขที่แท้จริงกันเถอะ!!
สงบได้ จะสำนึกในความวุ่นวายของตน
เงียบเป็น จะสำนึกในความเพ้อเจ้อของตน
มีน้ำใจ จะสำนึกในการด่วนสรุปคนอื่นของตน (สุภาษิตจีนโบราณ)
เรามาเริ่มเรื่องแรกในวันขึ้นปีใหม่ ปีพุทธศักราช 2558 หรือ คริสต์ศักราช
2014 กันเลย
1.เรื่อง ความสมบูรณ์แบบและความรู้สึกผิด
1.1 ตอน
ก้อนอิฐที่ไม่เข้าที่เข้าทางสองก้อน
หลังจากการซื้อที่ดินเพื่อสร้างวัดเมื่อ
พ.ศ. 2526 นั้น เราก็หมดตัวและเป็นหนี้โดยที่ยังไม่มีสิ่งปลูกสร้างใด ๆ
แม้แต่เพิงที่อาศัยได้ บนที่ดินผืนนั้น ในช่วงสองสามอาทิตย์แรก
เราต้องอาศัยนอนอยู่บนบานประตูเก่า ๆ ที่ซื้อมาถูก ๆ จากคนขายของเก่า
เราหนุนบานประตูเก่า ๆ นั้นให้สูงขึ้นจากพื้นดินด้วยก้อนอิฐ (เราไม่มีแม้แต่เบาะนอน
นั่นก็เป็นของแน่นอนอยู่แล้วเพราะว่าเราเป็นพระป่านี่)
ท่านเจ้าอาวาสได้บานประตูที่ดีที่สุด
เป็นบานประตูเรียบ ๆ ส่วนบานประตูของอาตมาเป็นชนิดที่มีบัว แถมยังมีรูขนาดใหญ่พอควรอยู่ตรงกลางตรงบริเวณที่เคยติดลูกบิด โชคดีนะที่เขาถอดลูกบิดออกไปแล้ว แต่เจ้ารูนี่ก็ยังคงอยู่เกือบจะกลางเตียงประตูของอาตมาทีเดียว อาตมาเคยพูดตลก ๆ ว่า
อาตมาไม่ต้องลุกจากเตียงไปเข้าห้องน้ำหรอกนะ! ความจริงที่แสนหนาวก็คือว่า
ลมสามารถพัดกรูผ่านเจ้ารูนี่มาถึงตัวอาตมา
ทำให้อาตมาไม่ค่อยได้หลับได้นอนในช่วงค่ำคืนเหล่านั้น
พวกเราเป็นพระจน ๆ
ที่ต้องการอาคารที่พักอาศัย แต่ไม่มีกำลังทรัพย์พอที่จะจ้างช่างก่อสร้างได้
แค่ค่าวัสดุต่าง ๆ ก็แพงเกินพอแล้ว
อาตมาจึงต้องเรียนรู้ว่าเขาทำงานก่อสร้างกันอย่างไร
เตรียมฐานรากอย่างไร
ตลอดจนถึงการผสมคอนกรีต การก่ออิฐ การตั้งหลังคา งานประปา และทุก ๆ อย่าง
ก่อนจะบวชอาตมาเคยเป็นนักฟิสิกส์ทฤษฏีและเป็นครูโรงเรียนมัธยม
ผู้ไม่เคยคุ้นกับการใช้แรงงานด้วยมือทั้งสองนี้
เพียงไม่กี่ปีอาตมากลายเป็นช่างก่อสร้างที่มีฝีมือไม่เบา ขนาดที่จะสามารถเรียกคณะทำงานของอาตมาได้ว่า
บริษัทพุทธก่อสร้าง (BBC-Buddhist Building Company)
แต่ขณะที่เริ่มต้นนั้นมันช่างเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญเอามาก ๆ
การก่ออิฐอาจจะดูเป็นเรื่องง่าย ๆ เพียงแค่โปะปูนลงไปแล้ววางก้อนอิฐ
แตะด้านนี้ทีด้านนั้นทีให้เข้าที่ ตอนอาตมาเริ่มก่ออิฐใหม่ ๆ
อาตมาแตะกดมุมหนึ่งลงเพื่อให้ได้ระดับ อีกมุมหนึ่งกลับยกขึ้น พออาตมากดด้านที่ยกขึ้นนั้นให้ลงมา
อิฐก็เริ่มแตกแถวแตกแนว หลังจากที่อาตมาดันมันให้กลับเข้าที่
มุมแรกก็เริ่มสูงเกินไปอีกแล้ว โยมลองทำดูซิ!
เพราะอาตมาเป็นพระ อาตมาจึงมีความอดทนและมีเวลาที่จะทำงานได้โดยไม่จำกัด
อาตมาจึงทำงานอย่างประณีตที่สุด โดยไม่สนว่าจะต้องใช้เวลายาวนานเท่าใด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าอิฐทุก ๆ
ก้อนจะถูกวางไว้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
ในที่สุดการก่อกำแพงอิฐแผงแรกของอาตมาก็สำเร็จลง อาตมาก้าวถอยออกมายืนชื่นชมผลงาน
ในชั่วขณะนั้นแหละที่อาตมาสังเกตเห็น ....โอ้ย!.... อาตมาก่ออิฐพลาดไปสองก้อน
อิฐก้อนอื่น ๆ เป็นแถวเป็นแนวสวยงาม มีแต่เจ้าอิฐสองก้อนนี่แหละที่เอียง ๆ
ทำมุมกับแนวอิฐก้อนอื่น ๆ มันดูแย่มาก ๆเลย มันทำให้กำแพงทั้งแผงดูไม่ดีเลย
ขณะนั้นปูนก่ออิฐก็แข็งเกินกว่าที่จะสามารถดึงอิฐออกมาก่อใหม่เสียแล้ว อาตมาจึงกราบเรียนท่านเจ้าอาวาส
ขอทุบกำแพงเพื่อเริ่มต้นก่ออิฐใหม่อีกครั้ง
หรือถ้าจะให้ดีก็อยากจะระเบิดมันทิ้งไปเลย
อาตมากก่ออิฐไม่ดี และอาตมาก็รู้สึกอับอาย
ท่านเจ้าอาวาสไม่อนุญาตให้รื้อ
กำแพงนี้จะต้องคงอยู่
เวลาอาตมาพาแขกเยี่ยมชมวัดที่เริ่มตั้งใหม่ของเรา
อาตมาพยายามหลีกเลี่ยงที่จะพาแขกเดินไปทางกำแพงนั้น อาตมาไม่อยากให้ใคร ๆ เห็นมันเลย จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อเวลาผ่านไปได้ 3 – 4
เดือน ขณะที่อาตมากำลังเดินอยู่กับผู้มาเยี่ยมวัดคนหนึ่ง เขาสังเกตเห็นกำแพงนั้น
แล้วก็เปรยขึ้นมาว่า
“กำแพงนี่สวยดี”
อาตมาถามเขาด้วยความประหลาดใจว่า
“คุณลืมแว่นสายตาของคุณไว้ในรถรึเปล่า? สายตาคุณเสื่อมรึเปล่า? คุณไม่เห็นรึว่ามีอิฐถึงสองก้อนที่วางไม่ดีจนทำให้กำแพงนี้เสียหายหมด?”
คำพูดที่เขาตอบอาตมานั้นได้เปลี่ยนแปลงทัศนคติทั้งหมดของอาตมาต่อกำแพงนั้น
ต่อตัวอาตมาเองและต่อหลายๆแง่มุมของชีวิต เขาบอกอาตมาว่า “ใช่
ผมเห็นอิฐที่วางไม่ดีสองก้อนนั้น แต่ผมก็ได้เห็นด้วยว่ามีอิฐอีก 998 ก้อน
ก่อไว้อย่างสวยงามเป็นระเบียบ”
อาตมาถึงกับอึ้งทีเดียว
นับเป็นครั้งแรกในรอบสามเดือนที่อาตมาสามารถมองเห็นอิฐก้อนอื่น ๆ
บนกำแพงนั้นนอกเหนือจากเจ้าสองก้อนที่เป็นปัญหา ไม่ว่าจะเป็นอิฐที่อยู่ด้านบน
ด้านล่าง ด้านซ้าย และด้านขวาของเจ้าอิฐสองก้อนนั้น
ล้วนแต่เป็นอิฐที่ก่อไว้อย่างดีไม่มีที่ติ
ยิ่งไปกว่านั้นจำนวนอิฐที่ดีนี้มีมากกว่าเจ้าอิฐไม่ดีสองก้อนนั้นมากมายนัก ก่อนหน้านี้ตาของอาตมาจับจ้องเฉพาะแต่ที่อิฐสองก้อนนั้น
ตาของอาตมามืดบอดต่อสิ่งอื่น ๆ ทั้งหมด อาตมาจึงไม่อาจทนมองกำแพงนั้นได้และไม่ต้องการให้ผู้อื่นได้เห็นกำแพงนั้นด้วย
เป็นเหตุให้อาตมาอยากจะทลายกำแพงนั้นทิ้ง
เดี๋ยวนี้เมื่ออาตมาสามารถเห็นอิฐดี ๆ แล้ว
กำแพงนั้นก็ไม่น่าเกลียดอีกต่อไป มันก็เป็นเหมือนกับที่ผู้มาเยี่ยมคนนั้นพูด
“กำแพงนี่สวยดี”
เดี๋ยวนี้กำแพงนั้นก็ยังคงอยู่ แม้เวลาจะผ่านไป 20 ปีแล้ว
อาตมาเองก็ลืมเสียแล้วว่าเจ้าอิฐไม่ดีสองก้อนนั้นมันอยู่ตรงไหนแน่ อาตมาไม่สามารถเห็นจุดที่ผิดพลาดนั้นจริง ๆ
มนุษย์เราสักกี่คนที่ตัดสัมพันธ์หรือหย่าร้างเพียงเพราะเขาเพ่งมองเห็นแต่
“อิฐที่ไม่ดีสองก้อน” ที่อยู่ในตัวคู่ชีวิตของเขา พวกเรากี่คนที่เคยรู้สึกท้อแท้สิ้นหวังจนอาจจะเคยคิดฆ่าตัวตาย
เพียงเพราะเรามองเห็นแต่ “อิฐที่ไม่ดีสองก้อน”
ในตัวของเรา ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงมี “อิฐที่ดีและอิฐที่ดีจนไม่มีที่ติ” มากมายอยู่เคียงข้างส่วนที่บกพร่อง ไม่ว่าจะมองไปทางข้างบน ข้างล่าง ข้างซ้าย ข้างขวา
เพียงแต่เรามองมันไม่เห็นเท่านั้น
แทนที่จะเห็นสิ่งดี ๆ ที่มีอยู่
สายตาของเรากลับเพ่งมองจดจ่อเฉพาะสิ่งที่ผิดพลาด ทั้งหมดที่เราเห็นมีแต่สิ่งผิดพลาด จนเราคิดอยากจะทำลายมันทิ้งเสีย มันน่าเศร้าจริง ๆ
ที่หลายครั้งหลายหนเราได้ลงมือทลาย “กำแพงที่ดี” นั้นไปจริง ๆ
ฉะนั้นมันเป็นไปได้ที่เอกลักษณ์พิเศษจะมีจุดเริ่มต้นมาจากความผิดพลาด
ในทำนองเดียวกัน ถ้าเพียงแต่จะเลิกมองจดจ้องอยู่เฉพาะแต่ข้อผิดพลาด
สิ่งที่เราเห็นว่าเป็นข้อบกพร่องในตัวเรา ในตัวสามี
หรือ ในตัวภรรยาของเรา และในชีวิตทั่ว ๆ ไปอาจจะกลับกลายเป็น “ลักษณะพิเศษเฉพาะตัว” ที่จะเพิ่มคุณค่าให้แก่ชีวิตของเราได้นะ
ขอบคุณแหล่งข้อมูลและรูปภาพประกอบ
จาก หนังสือ
ชวนม่วนชื่น ธรรมะบันเทิงหลายเรื่องเล่า โดย อาจารย์พรหม
กองทุนสื่อธรรมะทอสี
และ มูลนิธิปัญญาประทีป
www.pinterest.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น