วันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558

ความสุขที่แท้จริง 1.ก้อนอิฐที่ไม่เข้าที่

          
                           ขอนำเรื่องราวแห่งความสุขที่แท้จริง ที่จะชวนให้คุณสร้างรอยยิ้มในใจ และเปิดรับโลกใหม่ ในมุมมองใหม่ ๆ   ไปกับเรื่องราวในหนังสือนิทาน หรือ หนังสือในตำนานต่างๆ รวมถึงสุภาษิต และเรื่องราวในหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา  หรือ คำสอนธรรมะ จากทุกศาสนา ที่สนุกสนานจากประสบการณ์ตรงของผู้แต่ง  นำมาเรียงร้อย รวบรวมให้เป็นแหล่งรวมกำลังใจ สำหรับใครหลาย ๆ คน ที่กำลังรู้สึกแย่ ว้าเหว่ โดดเดี่ยว คิดอะไรไม่ออก เจอทางตัน  เรื่องราวต่าง ๆ ที่เก็บเล็กผสมน้อยมารวบรวมไว้ให้นี้ จะช่วยให้เห็นแสงที่ปลายอุโมงค์ ได้เข้าใจถึงคำว่า ความสุข คืออะไร  จะค้นพบความจริงของตัวเองว่า เราต้องการสิ่งใดในชีวิตของเราจริง ๆ  สิ่งที่เราตัดสินใจไปแล้วผิดไหม หรือ กำลังจะตัดสินใจอะไรบางอย่าง ต้องทำอย่างไร เรื่องราวเหล่านี้ได้ช่วยเปลี่ยนชีวิตของผู้อ่านให้ดีขึ้นมามากมาย รวมถึงตัวผู้รวบรวมเองด้วย  การอ่านเรื่องดี ๆ เป็นยาวิเศษที่ยอดเยี่ยมมาก รักษาโรคที่ร้ายแรงที่สุดของเราให้หายได้เป็นปลิดทิ้ง คุณเชื่อหรือไม่  ความสุขที่แท้จริงของคุณคืออะไร  อยากรู้อยากรู้มะ มาม๊ะมาค้นหาความสุขที่แท้จริงกันเถอะ!!

สงบได้                         จะสำนึกในความวุ่นวายของตน
เงียบเป็น                     จะสำนึกในความเพ้อเจ้อของตน
มีน้ำใจ                         จะสำนึกในการด่วนสรุปคนอื่นของตน      (สุภาษิตจีนโบราณ)

เรามาเริ่มเรื่องแรกในวันขึ้นปีใหม่ ปีพุทธศักราช 2558 หรือ คริสต์ศักราช 2014 กันเลย

1.เรื่อง ความสมบูรณ์แบบและความรู้สึกผิด

1.1  ตอน ก้อนอิฐที่ไม่เข้าที่เข้าทางสองก้อน

            หลังจากการซื้อที่ดินเพื่อสร้างวัดเมื่อ พ.ศ. 2526 นั้น เราก็หมดตัวและเป็นหนี้โดยที่ยังไม่มีสิ่งปลูกสร้างใด ๆ แม้แต่เพิงที่อาศัยได้ บนที่ดินผืนนั้น ในช่วงสองสามอาทิตย์แรก เราต้องอาศัยนอนอยู่บนบานประตูเก่า ๆ ที่ซื้อมาถูก ๆ จากคนขายของเก่า เราหนุนบานประตูเก่า ๆ นั้นให้สูงขึ้นจากพื้นดินด้วยก้อนอิฐ (เราไม่มีแม้แต่เบาะนอน นั่นก็เป็นของแน่นอนอยู่แล้วเพราะว่าเราเป็นพระป่านี่)

            ท่านเจ้าอาวาสได้บานประตูที่ดีที่สุด เป็นบานประตูเรียบ ๆ ส่วนบานประตูของอาตมาเป็นชนิดที่มีบัว  แถมยังมีรูขนาดใหญ่พอควรอยู่ตรงกลางตรงบริเวณที่เคยติดลูกบิด  โชคดีนะที่เขาถอดลูกบิดออกไปแล้ว  แต่เจ้ารูนี่ก็ยังคงอยู่เกือบจะกลางเตียงประตูของอาตมาทีเดียว  อาตมาเคยพูดตลก ๆ ว่า อาตมาไม่ต้องลุกจากเตียงไปเข้าห้องน้ำหรอกนะ! ความจริงที่แสนหนาวก็คือว่า ลมสามารถพัดกรูผ่านเจ้ารูนี่มาถึงตัวอาตมา ทำให้อาตมาไม่ค่อยได้หลับได้นอนในช่วงค่ำคืนเหล่านั้น

        พวกเราเป็นพระจน ๆ ที่ต้องการอาคารที่พักอาศัย แต่ไม่มีกำลังทรัพย์พอที่จะจ้างช่างก่อสร้างได้ แค่ค่าวัสดุต่าง ๆ ก็แพงเกินพอแล้ว  อาตมาจึงต้องเรียนรู้ว่าเขาทำงานก่อสร้างกันอย่างไร เตรียมฐานรากอย่างไร  ตลอดจนถึงการผสมคอนกรีต การก่ออิฐ การตั้งหลังคา งานประปา และทุก ๆ อย่าง  ก่อนจะบวชอาตมาเคยเป็นนักฟิสิกส์ทฤษฏีและเป็นครูโรงเรียนมัธยม ผู้ไม่เคยคุ้นกับการใช้แรงงานด้วยมือทั้งสองนี้  เพียงไม่กี่ปีอาตมากลายเป็นช่างก่อสร้างที่มีฝีมือไม่เบา  ขนาดที่จะสามารถเรียกคณะทำงานของอาตมาได้ว่า บริษัทพุทธก่อสร้าง (BBC-Buddhist Building Company) แต่ขณะที่เริ่มต้นนั้นมันช่างเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญเอามาก ๆ

             การก่ออิฐอาจจะดูเป็นเรื่องง่าย ๆ เพียงแค่โปะปูนลงไปแล้ววางก้อนอิฐ แตะด้านนี้ทีด้านนั้นทีให้เข้าที่ ตอนอาตมาเริ่มก่ออิฐใหม่ ๆ อาตมาแตะกดมุมหนึ่งลงเพื่อให้ได้ระดับ อีกมุมหนึ่งกลับยกขึ้น พออาตมากดด้านที่ยกขึ้นนั้นให้ลงมา อิฐก็เริ่มแตกแถวแตกแนว หลังจากที่อาตมาดันมันให้กลับเข้าที่ มุมแรกก็เริ่มสูงเกินไปอีกแล้ว โยมลองทำดูซิ!

            เพราะอาตมาเป็นพระ  อาตมาจึงมีความอดทนและมีเวลาที่จะทำงานได้โดยไม่จำกัด อาตมาจึงทำงานอย่างประณีตที่สุด โดยไม่สนว่าจะต้องใช้เวลายาวนานเท่าใด  เพื่อให้มั่นใจได้ว่าอิฐทุก ๆ ก้อนจะถูกวางไว้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด  ในที่สุดการก่อกำแพงอิฐแผงแรกของอาตมาก็สำเร็จลง  อาตมาก้าวถอยออกมายืนชื่นชมผลงาน ในชั่วขณะนั้นแหละที่อาตมาสังเกตเห็น ....โอ้ย!.... อาตมาก่ออิฐพลาดไปสองก้อน อิฐก้อนอื่น ๆ เป็นแถวเป็นแนวสวยงาม มีแต่เจ้าอิฐสองก้อนนี่แหละที่เอียง ๆ ทำมุมกับแนวอิฐก้อนอื่น ๆ มันดูแย่มาก ๆเลย มันทำให้กำแพงทั้งแผงดูไม่ดีเลย

 ขณะนั้นปูนก่ออิฐก็แข็งเกินกว่าที่จะสามารถดึงอิฐออกมาก่อใหม่เสียแล้ว  อาตมาจึงกราบเรียนท่านเจ้าอาวาส ขอทุบกำแพงเพื่อเริ่มต้นก่ออิฐใหม่อีกครั้ง หรือถ้าจะให้ดีก็อยากจะระเบิดมันทิ้งไปเลย  อาตมากก่ออิฐไม่ดี และอาตมาก็รู้สึกอับอาย ท่านเจ้าอาวาสไม่อนุญาตให้รื้อ  กำแพงนี้จะต้องคงอยู่

            เวลาอาตมาพาแขกเยี่ยมชมวัดที่เริ่มตั้งใหม่ของเรา  อาตมาพยายามหลีกเลี่ยงที่จะพาแขกเดินไปทางกำแพงนั้น  อาตมาไม่อยากให้ใคร ๆ เห็นมันเลย  จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อเวลาผ่านไปได้ 3 – 4 เดือน ขณะที่อาตมากำลังเดินอยู่กับผู้มาเยี่ยมวัดคนหนึ่ง เขาสังเกตเห็นกำแพงนั้น แล้วก็เปรยขึ้นมาว่า

“กำแพงนี่สวยดี”


         อาตมาถามเขาด้วยความประหลาดใจว่า  “คุณลืมแว่นสายตาของคุณไว้ในรถรึเปล่า? สายตาคุณเสื่อมรึเปล่า? คุณไม่เห็นรึว่ามีอิฐถึงสองก้อนที่วางไม่ดีจนทำให้กำแพงนี้เสียหายหมด?

            คำพูดที่เขาตอบอาตมานั้นได้เปลี่ยนแปลงทัศนคติทั้งหมดของอาตมาต่อกำแพงนั้น ต่อตัวอาตมาเองและต่อหลายๆแง่มุมของชีวิต เขาบอกอาตมาว่า “ใช่ ผมเห็นอิฐที่วางไม่ดีสองก้อนนั้น แต่ผมก็ได้เห็นด้วยว่ามีอิฐอีก 998 ก้อน ก่อไว้อย่างสวยงามเป็นระเบียบ

            อาตมาถึงกับอึ้งทีเดียว นับเป็นครั้งแรกในรอบสามเดือนที่อาตมาสามารถมองเห็นอิฐก้อนอื่น ๆ บนกำแพงนั้นนอกเหนือจากเจ้าสองก้อนที่เป็นปัญหา ไม่ว่าจะเป็นอิฐที่อยู่ด้านบน ด้านล่าง ด้านซ้าย และด้านขวาของเจ้าอิฐสองก้อนนั้น ล้วนแต่เป็นอิฐที่ก่อไว้อย่างดีไม่มีที่ติ  ยิ่งไปกว่านั้นจำนวนอิฐที่ดีนี้มีมากกว่าเจ้าอิฐไม่ดีสองก้อนนั้นมากมายนัก  ก่อนหน้านี้ตาของอาตมาจับจ้องเฉพาะแต่ที่อิฐสองก้อนนั้น ตาของอาตมามืดบอดต่อสิ่งอื่น ๆ ทั้งหมด อาตมาจึงไม่อาจทนมองกำแพงนั้นได้และไม่ต้องการให้ผู้อื่นได้เห็นกำแพงนั้นด้วย เป็นเหตุให้อาตมาอยากจะทลายกำแพงนั้นทิ้ง   เดี๋ยวนี้เมื่ออาตมาสามารถเห็นอิฐดี ๆ แล้ว กำแพงนั้นก็ไม่น่าเกลียดอีกต่อไป มันก็เป็นเหมือนกับที่ผู้มาเยี่ยมคนนั้นพูด “กำแพงนี่สวยดี”  เดี๋ยวนี้กำแพงนั้นก็ยังคงอยู่ แม้เวลาจะผ่านไป 20 ปีแล้ว  อาตมาเองก็ลืมเสียแล้วว่าเจ้าอิฐไม่ดีสองก้อนนั้นมันอยู่ตรงไหนแน่  อาตมาไม่สามารถเห็นจุดที่ผิดพลาดนั้นจริง ๆ

           มนุษย์เราสักกี่คนที่ตัดสัมพันธ์หรือหย่าร้างเพียงเพราะเขาเพ่งมองเห็นแต่  “อิฐที่ไม่ดีสองก้อน”  ที่อยู่ในตัวคู่ชีวิตของเขา พวกเรากี่คนที่เคยรู้สึกท้อแท้สิ้นหวังจนอาจจะเคยคิดฆ่าตัวตาย เพียงเพราะเรามองเห็นแต่  “อิฐที่ไม่ดีสองก้อน”  ในตัวของเรา  ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงมี  “อิฐที่ดีและอิฐที่ดีจนไม่มีที่ติ”  มากมายอยู่เคียงข้างส่วนที่บกพร่อง  ไม่ว่าจะมองไปทางข้างบน  ข้างล่าง ข้างซ้าย ข้างขวา เพียงแต่เรามองมันไม่เห็นเท่านั้น  แทนที่จะเห็นสิ่งดี ๆ ที่มีอยู่  สายตาของเรากลับเพ่งมองจดจ่อเฉพาะสิ่งที่ผิดพลาด   ทั้งหมดที่เราเห็นมีแต่สิ่งผิดพลาด  จนเราคิดอยากจะทำลายมันทิ้งเสีย  มันน่าเศร้าจริง ๆ ที่หลายครั้งหลายหนเราได้ลงมือทลาย  “กำแพงที่ดี”  นั้นไปจริง ๆ

           
เราทุกคนย่อมมี “ก้อนอิฐที่ไม่เข้าที่เข้าทางสองก้อน” แต่ แต่ละคนก็ย่อมมี  “ก้อนอิฐที่ดีจนไม่มีที่ติ” จำนวนมากมายกว่าข้อบกพร่องหลายเท่า  เมื่อเรามองเห็นมันแล้ว สิ่งต่าง ๆ ก็ดูจะไม่เลวร้ายนัก  ไม่เพียงแต่เราจะสามารถอยู่กับตนเองและข้อผิดพลาดบางประการของเราได้อย่างสุขสงบแล้ว เรายังสามารถมีความสุขกับการใช้ชีวิตร่วมกับสามี หรือ ภรรยาของเราด้วย 


            ฉะนั้นมันเป็นไปได้ที่เอกลักษณ์พิเศษจะมีจุดเริ่มต้นมาจากความผิดพลาด  ในทำนองเดียวกัน ถ้าเพียงแต่จะเลิกมองจดจ้องอยู่เฉพาะแต่ข้อผิดพลาด  สิ่งที่เราเห็นว่าเป็นข้อบกพร่องในตัวเรา ในตัวสามี หรือ ในตัวภรรยาของเรา และในชีวิตทั่ว ๆ ไปอาจจะกลับกลายเป็น  “ลักษณะพิเศษเฉพาะตัว”  ที่จะเพิ่มคุณค่าให้แก่ชีวิตของเราได้นะ        





           ขอบคุณแหล่งข้อมูลและรูปภาพประกอบ
         
จาก หนังสือ ชวนม่วนชื่น ธรรมะบันเทิงหลายเรื่องเล่า โดย อาจารย์พรหม
กองทุนสื่อธรรมะทอสี และ มูลนิธิปัญญาประทีป

www.thawsischool.com         
www.pinterest.com  



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น